Captain Marvel
(2019)
เนื้อหาต่อไปนี้มีสปอยเลอร์ครับ
- สรุปสั้น ๆ ก็คือ ไม่ได้ว้าวมาก แต่ก็ไม่แย่ จัดอันดับให้สูงกว่า Doctor Strange หน่อยนึง
- การที่ Carol สูญเสียความทรงจำทำให้ pacing ของหนังสะดุดไปบ้าง ฉาก flashback เยอะมาก แต่ก็ไม่ได้ใช้ flashback เพื่อแสดงให้เห็นถึงลักษณะนิสัยหรือที่มาที่ไปของ Carol มากเท่าไหร่ ทุก flashback สื่อความหมายอย่างเดียวกันคือ Carol สามารถก้าวข้ามคำดูถูกดูแคลนของคนรอบข้างได้ และการล้มแล้วลุก ซึ่งจะไปโยงเข้ากับความเป็นมนุษย์ของ Carol (เดี๋ยวพูดถึงเรื่องนี้อีกข้างล่าง)
- ฉากหลังจากที่ Carol ถูก Skrull จับและโดนค้นความทรงจำ เราว่ายืดเยื้อมาก เหมือนนั่งดูคนอื่นกรอเทปกลับไปกลับมา โดยที่คนดูไม่ได้รับข้อมูลอะไรมากนัก
- การหั่นเนื้อเรื่องออกเป็นฝั่ง Hala กับฝั่ง C-53 (โลก) ทำให้หนังข้ามจุดสำคัญไปหลายจุด คือเข้าใจว่าทั้งสอง setting นี้มีความสำคัญกับแก่นของตัวละคร Carol แต่ถ้าโฟกัสไปที่โลกเลย (ตัดฉากแรก ๆ บน Hala ออก ตัดภารกิจกอบกู้ Solarr ออก) น่าจะลื่นไหลมากขึ้น พอใส่มาทั้งสองฝั่งแบบนี้ทั้งตัวละครสมทบฝั่ง Hala อย่าง Yon-Rogg และฝั่งโลกอย่าง Maria เลยไม่มี character moment เด่น ๆ เลย
- บทพูดเป็นธรรมชาติกว่าหนังมาร์เวลเรื่องอื่น ๆ รู้สึกเหมือนมี quip น้อยลง เห็นได้ชัดในฉากแอ๊กชั่นว่าสู้กันเงียบ ๆ ไม่ได้ตะโกนมุกใส่กัน แต่ในบางสถานการณ์ (จำไม่ได้แล้วว่าฉากไหน) กลับมี delivery ที่แข็งทื่อ ฟังดูเหมือนตัวการ์ตูนมากกว่าคน อันนี้เราว่าเป็นที่บท ไม่ใช่ที่ Brie Larson
- แต่ฉากที่สำคัญต่อ narrative ของหนังจริง ๆ เราว่า Brie ผ่านฉลุย อย่างตอนสุดท้ายที่พูดว่า “I don’t have anything to prove to you.” คือสตรองมาก เรียกอารมณ์ได้ดีมาก
- Carol กับ Fury เคมีดีมาก อันนี้เห็นหลายคนพูดถึงแล้วเราเห็นด้วย ไม่รู้ว่า Fury จะโผล่มาใน Endgame รึเปล่า แต่อยากเห็นสองคนนี้เจอกันอีก
- การที่ Fury เอาชื่อ “Avenger” มาจาก call sign ของ Carol เราว่ามันดูยัดเยียดไปหน่อย ไม่รู้ดิ เราคิดว่ามันคือการเอา Carol มาเป็นเสาหลักของทีม Avengers ก่อนที่เธอเองจะมีโอกาสได้ทำอะไรให้กับทีม กลายเป็นการลดความสำคัญของทีมออริจินอลไป ถ้า Captain America จะได้ชื่อว่า The First Avenger แต่คำว่า Avenger ไม่ได้มาจาก Steve Rogers มันเหมือนขาดอะไรไป
- ไม่ชอบฉากที่ยิงพลังแข่งกับ Supreme Intelligence
- ฉากไคลแม็กซ์มืดมาก อุตส่าห์ชื่นชมมาร์เวลตรงที่ชอบให้คนมาสู้กันกลางแจ้งเนี่ย อันนี้สู้กันในยานอวกาศมืด ๆ แล้วก็มองไม่ค่อยเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นมั่ง ยิ่งมีแสงวิบวับ photosensitive เข้าไปอีก
- ในฐานะ origin story ก็ค่อนข้างมาตรฐาน ตัวละครเผชิญหน้ากับจุดขัดแย้งที่เป็นแกนหลักของเธอ ในที่นี้ก็คือความเป็นมนุษย์ของ Carol จากตอนต้นเรื่องที่ Yon-Rogg กำชับให้ Carol ต่อสู้โดยใช้สมองแทนอารมณ์ เอาไปคู่ขนานกับฉากที่ Carol ปีนเชือกแล้วร่วงลงมา แล้วเพื่อนร่วมชั้นรุมดูถูกว่าทำไม่ได้หรอก ไม่มีวันได้เป็นนักบินรบหรอก เสร็จแล้วก็จับสองปมนี้มาผูกกันเป็นข้อความที่ว่า ความเป็นมนุษย์นั้นคือการล้มแล้วลุกกลับขึ้นมาสู้ต่อ เอาชนะเลือด Kree ในตัวเธอได้ จะเห็นว่า conflict ของหนังเกิดจากตัวละครหลัก โดยมีปัจจัยภายนอกอย่างสงคราม Kree-Skrull เป็นฉากหลัง
- Lee Pace บทน้อยมาก
- Clark Gregg บท! น้อย! มาก!
- เฉย ๆ กับ Goose คือจะมองว่าน่ารักก็ได้ หรือจะมองว่ามาร์เวล (/ดิสนีย์) ใส่มาเพื่อขายของเล่นก็ได้ ส่วนตัวเราไม่ cynical ขนาดนั้น
- หลายคนบอกว่าเบื่อที่มาร์เวลชอบใช้ McGuffin เดิม ๆ (หินหกสีมณีหกแสงนั่นแหละ) แต่เราชอบนะ มันเพิ่มความสำคัญของ Infinity Stones ดี หินที่มีพลังมหาศาลขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องมีคน/เอเลี่ยนจากทุกสารทิศมาแย่งกันอยู่แล้ว
- ฉากกลางเครดิต ตัวละครเดียวในฉากนั้นที่ไม่ใช่สมาชิกหลัก Avengers คือ Rhodes ก็เลยอยากรู้ว่าจงใจรึเปล่า ในคอมิกนั้น Danvers กับ Rhodes เดทกัน (ไม่ได้ตามมาซักพักละ ตอนนี้ไม่รู้เป็นไง) ไม่รู้ใน MCU จะไปทางไหน
- ตอน Monica เปลี่ยนสีชุดของ Carol สีแรกที่เปลี่ยนคือสีขาว-แดง-ทอง — เหมือนสีชุด Shazam เราเห็นนะ! (เผื่อใครไม่รู้ ชื่อเดิมของ Shazam คือ Captain Marvel แต่เป็นตัวละครของ DC นะ)
- “We’re on the same team.” Monica Rambeau เด่นกว่าที่คิดไว้เยอะ เดาว่ามาร์เวลมีแผนจะทำ The Ultimates เพราะได้สมาชิกมาเกินครึ่งแล้ว เหลือ Blue Marvel กับ America Chavez