หนังแบบนี้คือเหตุผลหลักที่เราเริ่มโปรเจคร้อยหนัง

“หนังแบบนี้” คือหนังที่ใคร ๆ ก็รู้จัก เราก็รู้จักมาตั้งนานแล้ว ชาวบ้านชาวช่องเขาก็ดูกันหมดแล้วแต่เราดันไม่เคยดู พอตั้งใจจะดูก็ขี้เกียจบ้างล่ะ ไม่รู้จะหาดูจากไหนบ้างล่ะ ขี้เกียจบ้างล่ะ ติดซีรี่ส์บ้างล่ะ

…ขี้เกีย— พอ!

ก็เลยบอกกับตัวเองว่า ปีนี้แหละ จะเอาหนังที่อยากดูแต่ไม่ได้ดูซักทีมากองรวม ๆ กันแล้วไล่ดูให้หมด และ Good Will Hunting ก็เป็นหนึ่งในนั้น

พอดูจบแล้วก็ อือ สมแล้วที่เป็นหนังคลาสสิก

ตอนเราดู A Beautiful Mind เราคิดว่าจะเป็นหนังคณิตศาสตร์เกี่ยวกับนักคณิตศาสตร์ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ พอมาเรื่องนี้เราก็คิดว่าจะเป็นหนังคณิตศาสตร์เกี่ยวกับนักคณิตศาสตร์ แต่พอดูจบแล้วก็ไม่เชิง

Good Will Hunting คือดราม่าที่มีคณิตศาสตร์เป็นฉากหลังเห็นอยู่ไกล ๆ ถ้าจะบอกว่าหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับตัวเลขก็คงเหมือนกับบอกว่า The Social Network เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม

หนังทั้งเรื่องคือความเก็บกดของ Will Hunting (เล่นโดย Matt Damon) เพื่อมาปลดปล่อยในสองสามฉาก เห็นได้ว่าแทบทั้งเรื่อง Will ได้สร้างกำแพงล้อมรอบตัวเองไว้อย่างแน่นหนา และหลายคนที่พยายามจะทำลายมัน (อาจารย์ที่ MIT, จิตแพทย์สองสามคนแรก, Skylar) แต่ก็ล้มเหลว

แต่พอกำแพงนั้นพังทลายลง อารมณ์ที่ถูกเก็บล้อมไว้ก็ไหลบ่าออกมา ทำให้หนังมีฉากที่เข้มข้นรุนแรง พอมาสะท้อนกับตัวละคร Sean (เล่นโดย Robin Williams) ก็ยิ่งทำให้การโต้ตอบนั้นปะทุดุเดือดเข้าไปใหญ่

เพราะทั้งสองคนเล่นดีมาก (แหงล่ะ ระดับนี้แล้ว)

ก็คงจะเหมือนหนังคลาสสิกเรื่องอื่น ๆ ที่เราเคยเขียนถึง คือมันดีไปหมด ไม่มีอะไรต้องพูดมากยกเว้นว่าถ้ายังไม่ได้ดูก็ไปดูซะนะ