Kubo and the Two Strings
(2016)
Kubo and the Two Strings (ชื่อไทย: คูโบ้และพิณมหัศจรรย์) คือหนังเรื่องที่สี่ของ Laika สตูดิโอเจ้าของผลงานอย่าง Coraline, Paranorman และ The Boxtrolls ว่าด้วยคูโบ้ เด็กน้อยนักเล่านิทาน ผู้ออกผจญภัยตามหาชุดเกราะวิเศษเพื่อปราบราชาแห่งดวงจันทร์
If you must blink, do it now!
ภาพสวยมากมากมาก
ความพิเศษของหนังเรื่องนี้คือการถ่ายทำด้วยเทคนิก stop motion ดังนั้นทุกอย่างจะเป็นของจริงหมด ทั้งโมเดลตัวละคร ต้นไม้ใบหญ้าทะเลท้องฟ้าเส้นผมสัตว์ป่ายันอาม่าริมถนน ปั้นด้วยมือ ขยับด้วยมือ ถ่ายทำด้วยกล้อง แล้วมันก็ออกมาอลังการมาก และอธิบายได้อย่างไม่เคอะเขินว่า “ประณีต”
เราไม่อยากบอกว่าสไตล์ของ Kubo เป็นอะไรที่เลียนแบบด้วยซอฟต์แวร์ 3D ไม่ได้ เพราะคงทำได้ แต่เราว่าเสน่ห์ที่ติดมาโดย default ของการทำ stop motion อย่างพื้นผิวขรุขระของภูเขา หรือความสมจริงของเสื้อผ้าและแสงเงา (ก็แหงล่ะ ของจริงนี่นา) รวมไปถึงการเคลื่อนไหวที่ตะกุกตะกักนิด ๆ มันทำให้ Kubo เป็น Kubo น่ะ
อาจจะเพราะเวลาดู เราไม่ได้ทึ่งกับความสวยงามของฉากไปซะทั้งหมด (แต่อย่าเข้าใจผิดไป เพราะฉากสวยมาก มีหลายฉากที่พอเห็นปุ๊บก็คิดเลยว่า จงมาเป็นวอลล์เปเปอร์คอมเราซะ) แต่ทึ่งกับการได้มาซึ่งภาพเหล่านั้น ทึ่งกับการที่คน ๆ นึงต้องมานั่งปักปอยผมเข้าไปในหัวของโมเดลทีละเส้น ๆ เป็นวันเป็นเดือน แล้วมาค่อย ๆ ขยับทีละนิดกว่าจะได้แต่ละเฟรม
เราว่าความสวยงามของ Kubo ครึ่งหนึ่งอยู่หลังกล้อง
เนื้อเรื่องเดาง่าย แต่เรียบง่าย แต่เดาง่าย
หนังเรื่องนี้อาจจะแหม่ง ๆ อยู่บ้างตรงที่เนื้อหาดูเหมือนจะทำให้เด็กดู อย่างกริยาท่าทางและคำพูดของตัวด้วงทำให้ดูเผิน ๆ เหมือนกับ Kubo คือการ์ตูนไร้เดียงสา แต่เผลอนิดเดียวหนังก็ไปเล่าถึงธีมผู้ใหญ่ ๆ อย่างการพัดพรากและความตาย
จริงอยู่ที่ “หนังเด็ก” สามารถมีธีมผู้ใหญ่ผสมได้ อย่างแอนิเมชั่นใหม่ ๆ เช่น Inside Out หรือ Zootopia เองก็แฝงหัวข้อที่มีเดียงสาอยู่เต็มเปี่ยม แต่การนำเสนอสิ่งเหล่านี้กลมกล่อมต้องใช้กึ๋นในระดับที่เราคิดว่า Laika ยังมีไม่ถึง
ผลลัพท์คือเนื้อเรื่องที่คลิเช่ และน่าเบื่อในบางเวลา ทุกอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นเซอร์ไพรส์ก็เดาได้หมด บางอย่างที่เราแอบชื่นชมว่าเว้นไว้ให้คนดู “อ่านระหว่างบรรทัด” ก็ถูกอธิบายซะจนหมดเปลือกในช่วงท้ายเรื่อง อย่างเช่นโมทีฟ (motif) ของการเล่านิทานที่ไม่มีตอนจบ ที่ไปเกี่ยวเนื่องกับความทรงจำของผู้คนที่จากโลกนี้ไป บางทีเราก็อยากให้หนังปล่อยให้คนดูเข้าใจกันเอง แต่ถ้าคิดอีกมุมว่าหนังเรื่องนี้คือนิทาน และนิทานจะเป็นนิทานได้อย่างไรถ้าไม่มี “เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า”
ส่วน Kubo จะสอนให้รู้ว่าอะไรนั้น ก็ต้องไปดูกันเอาเองเนาะ
สรุป
ถึงเนื้อเรื่องของ Kubo and the Two Strings จะเฉื่อย จะคลิเช่ไปบ้าง แต่ก็น่าตื่นตาตื่นใจถ้าคิดว่าหนังเรื่องนี้คือเด็กคนนึงที่กำลังเล่านิทานให้ฟัง นอกจากนั้นความอลังการของฉากก็ทำให้นั่งจ้องตาไม่กระพริบ เป็นหนังที่ภาพสวยและมีเอกลักษณ์มากที่สุดเรื่องหนึ่ง