หนังเรื่องนี้อยู่ในลิสต์มาตั้งแต่ต้นปีแล้ว แต่เพราะมันเป็นหนังคริสต์มาส เลยอดใจรอมาเกือบปี รู้สึกว่าดีแล้วที่รอ เพราะหนังเรื่องนี้คริสต์มาสสปิริตสูงมาก

เราว่าหนังหรือเพลงหรืออะไรที่มันคริสต์มาส ๆ มันต้องฟัง/ดูช่วงปลายปีแบบนี้ ไม่งั้นมันจะจืด ๆ จะมาจิงเกิลเบลเดือนเมษาอะไรงี้ก็ไม่ใช่อะ ใช่แมะ

แถมเนื้อเรื่องในหนังนั้นจะอยู่แถว ๆ ลอนดอน ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัวเรา romanticise มันมาก เราว่าลอนดอนช่วงคริสต์มาสเป็นอะไรที่สวยงามอะ มันหนาว มันมีแสงไฟ มันมีผู้คน มันมีสปิริต

มันต้องมนต์

และหนังก็ถ่ายทอดมนต์เสน่ห์นั้นออกมาได้อย่างอบอุ่น หลาย ๆ ฉากมีแลนด์มาร์กของอังกฤษเป็นพื้นหลัง แล้วมันดีตรงที่แบบ สถานที่พวกนี้ไม่ใช่แค่เคยไป แต่เคยไปเดินช่วงคริสต์มาส มันเลย resonate กับเราได้มากขึ้นมั้ง

Love Actually เป็นหนังฟีลกู้ดที่ดูได้เรื่อย ๆ เพลิน ๆ และหัวเราะเสียงดังหลายครั้ง แต่ในขณะเดียวกันก็เรียลแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะโดยโครงสร้างของหนังนั้น หนังเล่าถึงความสัมพันธ์ (ฉันผัวเมีย ฉันแฟน ฉันเพื่อน) หลายแบบของคนหลายคู่ บางคู่ก็ผิดหวัง บางคู่ก็สมหวัง บางคู่ก็ไม่เป็นคู่เอาซะเลย ส่วนบางคู่ก็คลิเช่ซะไม่มี อารมณ์มันเลยกว้างไง อย่างคู่ของ Martin Freeman ก็ดูตลกดี แต่พอตัดมาเป็นคู่ของ Alan Rickman เงี้ย ดูแล้วซึมเลย

ที่สำคัญ Keira Knightley ใส่หมวกฟู ๆ โอ่ยยยย