สรุปสั้น ๆ คือเราชอบการเล่าเรื่องแบบกลับหลัง ชอบที่หนังไม่จูงมือคนดู ไม่อธิบายมากเกินให้คนดูไปคิดปะติดปะต่อเรื่องเอาเอง เป็นหนังโนแลนที่ชอบอันดับต้น ๆ เลย ถึงแม้ตัวละครจะเยอะแยะโดยไม่มีเหตุผลก็ตาม

สุดท้ายคือฉากจบ มันลงล็อคอะ (พูดว่าลงล็อคมากไปละ) แต่ไม่อยากพูดอะไรมาก เอาเป็นว่าเราชอบตอนจบ ทั้งตอนจบของหนังและตอนจบของเนื้อเรื่อง

นอกจากจะไม่สำคัญแล้ว ตัวละครพวกนั้นยังไม่มีที่มาที่ไปในเรื่องที่เราคิดว่าอุดช่องโหว่ของตัวละครได้ดี อย่างเช่นเรารู้ว่า Teddy และ Natalie เข้ามาในชีวิตของพระเอกได้ยังไง และสุดท้ายเกิดอะไรขึ้นกับทั้งสองคน แต่กับ Dodd กับ Jimmy หรือ Burt เอง เราไม่รู้ว่าตัวละครเหล่านั้นต้องการอะไร มาจากไหน จบยังไง ฯลฯ แต่ก็นะ อาจจะต้องดูอีกรอบนึงถึงจะเข้าใจ

(สารภาพว่าดูจบแล้วยังไม่รู้เลยว่า Jimmy เป็นใคร)

ตัวละครอื่น ๆ นี่สิปัญหา คือความยั้วเยี้ยของตัวละครมันทำให้จากหนังที่ดูยากอยู่แล้ว ดูยากขึ้นไปอีก โดยที่ตัวละครเหล่านั้นแทบไม่มีความสำคัญต่อเนื้อเรื่องหลักเลย เป็นเหมือนพล็อตรองที่ไม่รู้ใส่มาทำไม โดยเฉพาะตัวละครที่เกี่ยวเนื่องกับ Natalie อย่าง Dodd หรือ Jimmy

ส่วนเรื่องตัวละคร เริ่มที่พระเอกก่อน ตอนต้นของแต่ละคัทจะต้องเริ่มด้วยพระเอกมองไปรอบตัวแล้วเดาว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ ดึงรูปมาดูซิบอกว่าไง พอนาน ๆ เข้ามันเริ่มน่ารำคาญแฮะ เหมือนกับว่า แทนที่จะเล่าเรื่องต่อไปเลย ต้องมาสะดุดกับกิจวัตรประจำคัทของ Lenny แต่ก็เข้าใจแหละว่ามันคือการสื่อความทรมานของพระเอกให้คนดูรับรู้ และในครึ่งหลังการมองไปรอบตัวแล้วเดาก็ค่อยเพลาลง ก็ยังดี

ชอบตรงที่พอคนดูชินกับวิธีเล่าเรื่องของหนังแล้ว หนังก็เริ่มมีลูกเล่น เริ่มมี bait and switch หรือมีการวางหมากไว้ใน “คัท” ต่อไป อย่างฉากในบ้าน Natalie ที่เริ่มด้วยพระเอกควานหาปากกา แถมพอฉากจบของคัทนึงมันไปลงล็อคกับฉากเริ่มของคัทก่อนหน้า มันรู้สึกพอใจแบบแปลก ๆ อธิบายไม่ถูก

อย่างแรกเลยไม่พูดถึงการเล่าเรื่องแบบกลับหน้ากลับหลังแล้วมาประจบกันตรงกลางคงไม่ได้ คือเราชอบนะ ตอนช่วงแรก ๆ เหมือนจะเป็นกิมมิค เพราะมันยังงง ๆ ไง ยังปะติดปะต่อเรื่องไม่ถูก แต่พอมันลงล็อคแล้วมันก็รู้เรื่องเอง ถ้าดูรอบต่อ ๆ ไปน่าจะได้อีกมุมมองนึง

อืม จะเริ่มยังไงดีล่ะ