Zootopia
(2016)
ชื่นชมความกล้าของดิสนี่ย์ที่ทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมา
ปกติแล้วเราจะไม่ค่อยอยากพูดเรื่องการเหยียดผิว/เหยียดเพศเท่าไหร่ เพราะกลัวว่าจะพูดอะไรผิดแล้วไปทำให้ใครไม่พอใจเข้า ครั้นจะมานั่งตรวจทีละประโยคว่าประโยคนี้เราเขียนชัดไหม และคนอ่านจะตีความเป็นอย่างอื่นไหม ก็เสียเวลาเกินไป (แต่ไม่ได้บอกว่าการ discuss เรื่องนี้เป็นการเสียเวลานะ – เห็นไหม ต้องมานั่งจับผิดตัวเองอย่างเงี้ย) แต่กับหนังเรื่องนี้เราจะลองเขียนดู
ขอเริ่มด้วยสิ่งที่ไม่ชอบละกัน คือการสร้างหนังเกี่ยวกับ discrimination แล้วต้องการให้หนังมันตลกเนี่ย เราว่าหนังต้องระวังอย่างสูงสุดไม่ให้มีมุกเกี่ยวกับ discrimination ซึ่งโดยรวมแล้วก็ทำได้ดี แต่มาติดตรงที่สัตว์บางตัว เช่นสกังก์ สล็อต ที่สุดท้ายก็เป็นแค่ตัวตลก เพราะเกิดมาตัวเหม็นหรือช้า ถึงแม้ว่าเหล่าสล็อตดูจะไม่เดือดร้อนกับ discrimination เหล่านั้นก็ตาม
อีกอย่างที่ไม่ชอบคือ pop culture reference ตลอดทั้งเรื่อง ข้อเสียของ pop culture reference พวกนี้คือมันทำให้หนังเก่าเร็ว ลองนึกดูว่าถ้าอีกห้าปีเรากลับมาดูหนังเรื่องนี้เราจะงงกับ reference ของ Breaking Bad หรือเปล่า ไม่รู้สิ เราว่ามันทำให้หนังไม่คลาสสิก
แต่นอกจากที่บอกไปนั้นเราชอบหนังเรื่องนี้มาก ภาพสวย รายละเอียดเยอะ แอนิเมชั่นดี ตัวละครหลากหลาย และมีชีวิตชีวา มุกตลกทั้งคำพูด ทั้ง visual comedy
ด้านเนื้อเรื่องและสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อ เราว่าหนังสื่อออกมาได้ชัดเจน ชัดเจนในโลกของหนัง แต่พอเอามาแปลงเป็น “เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า” มันก็ออกจะแปลก ๆ หน่อย เพราะหนังชี้ให้เห็นถึงการเหยียดชนชาติในสังคม แต่ไม่ได้เสนอว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะยังไง “ผู้ล่า” ก็ยังคงเป็น “ผู้ล่า” หรือเปล่า แล้วถ้าเราเป็นกระต่ายเราควรจะพกสเปรย์ไล่หมาจิ้งจอกหรือเปล่า เหล่านี้คือสิ่งที่หนังยกขึ้นมาถาม แต่ไม่ยอมตอบ
Zootopia คือหนังที่ตะโกนบอกทุกคนว่ามีเปลือกกล้วยอยู่บนทางเดิน แต่ก็ไม่ได้เก็บไปทิ้ง ถึงจะไม่ได้แก้ปัญหาโดยตรง อย่างน้อยก็อาจจะช่วยเด็กคนหนึ่งไม่ให้ลื่นล้ม