The Night of the Hunter
(1955)
เราไม่สามารถอธิบายได้ว่า expressionism คืออะไร แต่เรารู้ว่าหนังเรื่องไหนเป็น expressionist เมื่อเราได้ดูมัน
The Night of the Hunter ดูเหมือนจะเป็นหนังสามตระกูล คือมันมีส่วนผสมของหนัง expressionist, noir, และ horror ในปริมาณเท่า ๆ กัน และผลลัพท์ที่ได้คือหนังเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดในคราบบาทหลวงที่ชื่อ Harry Powell (เล่นโดย Robert Mitchum คนเดียวกับใน Out of the Past)
ดูจากภายนอกแล้ว บาทหลวง Harry ดูเหมือนคนทั่วไป แต่งตัวดี สุภาพ เป็นมิตร ดูมีภูมิ แปลกนิดหน่อยตรงที่มีรอยสักคำว่า LOVE ที่มือขวา และ HATE ที่มือซ้าย แต่ในเนื้อเรื่องเขาทำหน้าที่เหมือนปีศาจในหนังผีที่ตามไล่ล่าเด็กสองคน John และ Pearl เพื่อเอาเงิน 10,000 ดอลลาร์ที่ซ่อนอยู่ในตุ๊กตาที่ Pearl ถือติดตัว
Harry เป็นตัวร้ายที่น่าสนใจ ด้วยความที่เป็นบาทหลวง เขายกข้อความในไบเบิลมาพูดถึงอยู่เสมอ เป็นผู้คลั่งศาสนาที่ใช้พระเจ้าเป็นข้ออ้างในการฆ่าคน ผ่านตรรกะที่บิดเบี้ยวของเขา ผู้หญิงนั้นมีหน้าที่ในการผลิตลูก และต้องรักษาความบริสุทธิ์ เมื่อหญิงใดกลายเป็นหม้าย เท่ากับว่าหมดคุณค่า เป็นหน้าที่ที่พระเจ้ามอบหมายต่อเขาให้ฆ่าหญิงหม้ายเหล่านั้นเพื่อชะล้างมลทิน
อย่างที่บอกแหละ ปีศาจในหนังผี
อย่างไรก็ตาม หนังเรื่องนี้ไม่ใช่การกล่าวโทษศาสนาคริสต์ซะทีเดียว แต่เหมือนเป็นการใช้ศาสนาในการดึงธาตุแท้ของตัวละครต่าง ๆ ออกมามากกว่า ในเรื่องยังมีอีกตัวละครหนึ่งชื่อ Rachel (เล่นโดย Lillian Gish) ที่เคร่งศาสนา และเป็นตัวแทนของคุณธรรม เป็นความตั้งใจของหนังที่ให้ตัวละครทั้งสองด้านของศีลธรรม — คนหนึ่งเป็นฆาตกรต่อเนื่อง อีกคนหนึ่งเป็นแม่บุญธรรม — ตีความศาสนาเดียวกันไปในทางที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
แต่พออ่านชีวประวัติของผู้กำกับ Charles Laughton (ที่ปกติเป็นนักแสดง มีผลงานกำกับหนังเรื่องนี้เรื่องเดียว) แล้วเห็นว่าเขาเป็นไบเซ็กชวล แต่ปกปิดตัวตนด้านนี้ตลอดชีวิตของเขา โดยมีแค่คนใกล้ตัวไม่กี่คนที่รู้ ทำให้มองหนังเรื่องนี้ และมองบาทหลวง Harry ในอีกบริบทหนึ่ง คืออาจจะมองได้ว่า Harry ไม่ใช่แค่บาทหลวงชั่ว แต่เป็นตัวแทนของสถาบันศาสนา การใช้ศาสนาบังหน้าเพื่อกระทำสิ่งเลวร้ายต่อกลุ่มคนที่สังคมด้อยค่า หรือการที่บาทหลวงนั้นหมกมุ่นอยู่กับความบริสุทธิ์ทางเพศ พรหมจรรย์ และธีมเกี่ยวกับการเก็บความลับจากผู้ร้ายในชุดบาทหลวง เหล่านี้ชวนให้นึกถึง repression ของตัว Laughton เอง
Guillermo del Toro พูดถึงหนังเรื่องนี้ไว้ว่า
“Sublime fairy tales of despair that depict the adult world as a toxic environment for kids to exist in. Secret treasures kept in the hearts of children must be safeguarded from the corruption of an adult world full of certainty and arrogance.”
ในบทความนั้น Guillermo ไม่ได้พูดถึงความเป็นไบเซ็กชวลของ Laughton แต่ก็เป็นอุปมาที่นำมาใช้ได้
ฉากในห้องนอนของ Willa (เล่นโดย Shelley Winters) ก็มีสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาหลายอย่าง ทั้งรูปทรงของห้องนอนที่ทำให้เหมือนโบสถ์เล็ก (chapel) แนว gothic และท่านอนของ Willa ก็คล้ายกับแวมไพร์ ซึ่งเป็นตำนานที่มีธีมด้านพรหมจรรย์เหมือนกัน
ในส่วนของหนังที่เป็น expressionist โดยเฉพาะ set design ทำให้เรานึกถึง The Tragedy of Macbeth ที่สร้างฉากพื้นหลังให้เหมือนอยู่ในนิทาน ดูเหมือนกับว่าพี่น้อง Coens จะใช้หนังเรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจบ่อยครั้ง
The Night of the Hunter คือหนังที่มีเอกลักษณ์และหลุดกรอบของ film noir ไปไกล ถึงจะมีบางฉากที่สะดุดบ้างแต่ความน่าจดจำนั้นไม่ต้องสงสัย