นอกจากหนัง classic noir ที่มาไล่ ๆ ดูในช่วงนี้แล้ว เราก็ไม่ค่อยได้ดูหนังเก่า ๆ ใน genre อื่นเท่าไหร่ จะมีก็แต่ Citizen Kane ที่ก็มีกลิ่นอายของ film noir อยู่จาง ๆ กับ Dr. Strangelove ที่สร้างในปี 1964 อาจจะบอกได้ว่าคนละยุคกันแล้ว อาจจะต้องหาหนังยุค 1940s ที่เป็นดราม่า หรือทริลเลอร์เพียว ๆ มาดูบ้าง

ที่รำพึงไว้นี่เพราะ Out of the Past ก็เป็นหนังอีกเรื่องนึงที่เราว่าการเดินเรื่องมันแปลก ๆ คนละจริตกับหนังสมัยใหม่ เราไม่ค่อยมีเซนส์ด้านการเล่าเรื่องเท่าไหร่ แต่เดาว่าที่มันดูแปลก ๆ เพราะหนังสมัยใหม่มักจะแบ่งเรื่องออกเป็นสามองก์ และแต่ละองก์ก็ส่งไม้ต่อไปองก์ต่อไป จนบางทียากที่จะบอกว่าจุดไหนในหนังคือองก์หนึ่ง สอง สาม แต่หนังเก่าหลายเรื่อง อย่างเรื่องนี้และ The Postman Always Rings Twice หั่นหนังกลางเรื่อง เป็นครึ่งแรกกับครึ่งหลังอย่างชัดเจน ใน Postman ครึ่งแรกเป็นโรแมนซ์ ส่วนครึ่งหลังพล็อตหักเลี้ยวกลายเป็น courtroom drama ซะดื้อ ๆ

ใน Out of the Past ครึ่งแรกเป็น flashback ถึงอดีต ครึ่งหลังเป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน ที่ถึงจะเกี่ยวข้องกัน แต่ก็เห็นรอยต่อชัดเจน เหมือนเป็นหนังสั้นสองภาคในเรื่องเดียว เราเลยอยากรู้ว่าหนังยุคนั้นชอบเล่าเรื่องแบบนี้ หรือนี่เป็นลักษณะของ classic noir โดยเฉพาะ

หนังสมัยใหม่ที่แบ่งครึ่งกลางเรื่องก็มี ที่นึกได้คือ Room ซึ่งไม่ใช่ film noir แต่ก็นั่นแหละ กลุ่มตัวอย่างเล็กไป

ที่ว่ามาทั้งหมดไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ ถึงการเล่าเรื่องแบบครึ่งแรกครึ่งหลังจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เราไม่ค่อยชอบ Postman แต่ในหนังเรื่องนี้เราว่ามันเป็น framework ที่ดี เพราะหนังเล่าเรื่องของอดีตนักสืบเอกชน Jeff (เล่นโดย Robert Mitchum) ที่ถูกสิ่งที่เขาทำในอดีตตามมาเช็คบิล ในครึ่งแรกของหนัง Jeff เป็นผู้กระทำ และครึ่งหลังเป็นผู้ถูกกระทำ คนดูก็จะได้เห็นสองด้านนี้ไปในสัดส่วนเท่า ๆ กัน

สิ่งหนึ่งที่เราไม่ค่อยได้เห็นใน noir เรื่องอื่น ๆ คือ Out of the Past ภาพสวยมาก สถานที่แต่ละที่วิวดีสุด ๆ ทั้งรอบ ๆ Lake Tahoe เองและคฤหาสน์ของ Whit (เล่นโดย Kirk Douglas — พ่อของ Michael Douglas) ที่ตั้งอยู่บนเขาเหนือ Lake Tahoe ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างอลังการแม้จะเป็นภาพขาวดำ

ปล. คนที่เล่นเป็น Joe (Paul Valentine) หน้าเหมือน John Travolta มาก ตกใจ