เนื้อหาต่อไปนี้มีสปอยเลอร์ครับ

สิ่งที่ทำให้หนังแนวลึกลับ หรือ mystery นั้นน่าติดตามก็คือการนำสิ่งของหรือเหตุการณ์มาเป็นตัวตั้ง เป็นจุดศูนย์กลางที่ narrative ของเรื่องโคจรไปรอบ ๆ อย่างเช่นใน The Maltese Falcon จุดศูนย์กลางของเรื่องก็คือรูปปั้นเหยี่ยวราคาแพง หรือใน Touch of Evil ก็คือคดีระเบิดรถ

กว่าคนดูจะรู้ว่าจุดศูนย์กลางของ Kiss Me Deadly คืออะไร หนังก็เกือบจบแล้ว

แต่หนังก็สามารถตรึงความสนใจเราไว้ได้ตลอดเรื่อง ทั้งที่ไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องจะเดินไปทางไหน ไม่รู้ว่า mystery หลักของเรื่องคืออะไร เพราะเราจะเพลิดเพลินกับการดูตัวเอก Mike Hammer ค่อย ๆ สืบเสาะคดี ค่อย ๆ ตามเส้นด้ายไปจนเจอเชือก

“First you find a little thread; little thread leads you to a string, the string leads you to a rope, and from the rope you hang by the neck.”

Velda Wickman เลขาของ Hammer พูดถึงการสืบหาความจริง และอันตรายของความอยากรู้อยากเห็นไปพร้อม ๆ กัน และเหมือนกับ Kiss Me Deadly ก็ใช้คำพูดข้างต้นเป็นวิธีเล่าเรื่อง เริ่มจากคดีฆาตกรรมของ Christina ตอนต้นเรื่อง คล้ายเป็นด้ายเส้นเล็ก ๆ ที่นำ Hammer ไปหา conspiracy ที่ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น จนสุดท้ายอันตรายก็ตกแก่ตัวเขาเอง

ถึงแม้พระเอกจะไม่ใช่สายลับ แต่หลาย ๆ จังหวะใน Kiss Me Deadly ก็มีกลิ่นอายของหนังแนว James Bond อยู่ไม่น้อย แถมออกจะไซไฟนิด ๆ ด้วย อย่าง truth serum หรือเครื่องตอบรับโทรศัพท์ (answering machine — ในไทยไม่ค่อยใช้กันเนาะ) แบบ built-in ในผนังที่เราก็ไม่แน่ใจว่าสมัยนั้นแพร่หลายมากน้อยแค่ไหน ไปจนถึงระเบิดนิวเคลียร์ในกล่องขนาดพกพา

ซึ่งกล่องที่ว่านี่แหละคือจุดศูนย์กลางของเรื่องที่กว่าจะโผล่มาหนังก็เกือบจบแล้ว

และถึงจะเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง ระเบิดนิวเคลียร์ที่อยู่ในกล่องนั้นเอาเข้าจริงก็ไม่มีความสำคัญเลย ระเบิดในกล่องไม่เคยถูกเอาไปใช้ ความสำคัญของมันถูกจำกัดอยู่กับความสำคัญที่ตัวละครต่าง ๆ ให้กับมัน

ใช่แล้ว — กล่องนี้มันคือ MacGuffin!

การที่ในกล่องมีระเบิดอยู่นั้นไม่จำเป็นด้วยซ้ำ ข้างในอาจจะเป็นเพชร หรือทองคำ หรือ PS5 หรืออะไรก็ได้ที่มีค่าพอที่จะทำให้คนเข่นฆ่ากัน ฟังก์ชั่นเดียวของระเบิดนี้คือตอนจบ ที่พอตัวละครนึงเปิดกล่องดูด้วยความสงสัย ทำให้กล่องนั้นระเบิด พาให้บ้านทั้งหลังลุกเป็นไฟแล้วพังทลายลงมา

ฉากจบนี่ถ้าได้ดูในโรง ในปี 1955 น่าจะตื่นตาตื่นใจไม่น้อย

สรุปแล้ว Kiss Me Deadly นอกจากจะเป็น classic noir แล้ว ยังจะเป็นต้นแบบของ spy thriller ด้วย