เมื่อหลายปีก่อนเราเคยดูหนังชื่อ Frances Ha ที่รับแรงบันดาลใจมาจากหนังประเภท French New Wave ทั้งการใช้ดนตรีจากหนังของ Truffaut และ Greta Gerwig เองก็พูดถึงแรงบันดาลใจจากหนังของ Rohmer แต่ตัวเราเองก็ไม่เคยดูหนัง French New Wave เพราะไม่รู้จะเริ่มตรงไหน จนมาอ่านเจอว่ามันมีหนัง new wave ที่เป็น film noir ด้วย — มีหลายเรื่องแหละที่จริง

นี่แหละโอกาส

Elevator to the Gallows เป็นหนังเรื่องแรกของผู้กำกับ Louis Malle ซึ่งถ้าชื่อของแกไม่อยู่ในหอเกียรติยศของเจ้าพ่อหนัง French New Wave แบบ Goddard, Truffaut, หรือ Rohmer ก็คงได้รางวัลชมเชยเป็นอย่างน้อย

แต่เรื่อง French New Wave เอาไว้ก่อน เดือนนี้คงได้ดูอีก

หนังเรื่องนี้คำโปรยปกหลังง่าย ๆ แต่น่าสนใจ — Elevator to the Gallows เป็นหนังเกี่ยวกับคนที่หลบหนีคดีฆาตกรรม แต่กลับตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมอีกคดี

ประเด็นคือเนื้อเรื่องในหนังไม่ได้เพ่งความสนใจไปยังผู้ก่อเหตุ แต่เดินเรื่องผ่านคนรักของเขาคือ Florence (เล่นโดย Jeanne Moreau) และคู่รักวัยรุ่น Louis กับ Veronique (Georges Poujouly, Yori Bertin) ที่ก่อเหตุฆาตกรรมคดีที่สอง

เราบอกว่า “เดินเรื่อง” แต่จริง ๆ แล้วจากต้นจนจบเนื้อเรื่องไม่เดินมาก เช่น Florence ใช้เวลาเกือบทั้งเรื่องเดินทั่วปารีสเพื่อตามหาคู่รักฆาตกรของเธอ Julien (Maurice Ronet) ในขณะที่อีกฟากนึงของพล็อตนั้น Louis กับ Veronique ก็ขับรถไปคุยกันไปเรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ

ส่วน Julien ใช้เวลาเกือบทั้งเรื่องติดอยู่ในลิฟต์

กว่าเนื้อเรื่องจะเริ่มเดินหนังก็เกือบจบแล้ว (จังหวะแบบนี้นึกถึง Criss Cross นิด ๆ) เหมือนกับดูเพื่อกินบรรยากาศมากกว่าดูเพื่อเนื้อเรื่อง หนัง new wave ก็แบบนี้แหละมั้ง?

ในเชิงภาพ ขณะที่หนังอย่าง Mildred Pierce จัดแสง จัดองค์ประกอบภาพ ทำ blocking อย่างแม่นยำ หนังเรื่องนี้ใช้แสงธรรมชาติ ปล่อยให้ตัวละครอาบแสงไฟจากถนนและร้านค้า และช็อต handheld ทำให้หนังดูอ่อนโยนและเป็นธรรมชาติกว่า noir ฝั่งอเมริกัน

และถ้าจะดูเพื่อกินบรรยากาศก็ถือว่าดีเลย เพราะ Elevator to the Gallows เป็นหนังที่เซ็กซี่มาก ไม่ใช่เซ็กซี่แบบยั่วอารมณ์ แต่เซ็กซี่แบบไฟหรี่ ๆ แล้วจิบไวน์ เซ็กซี่แบบเปิดเรื่องด้วยภาพโคลสอัพของหน้านางเอกที่พูดว่า “Je t’aime, je t’aime” ซ้ำ ๆ และเซ็กซี่แบบเดินทอดน่องรอบปารีสตอนหัวค่ำโดยมีเพลงแจ๊ซเป็นพื้นหลัง

แถมเป็นแจ๊ซที่แต่งโดย Miles Davis ด้วย

เพราะฉะนั้นหนังที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศแบบนี้ ไม่ต้องสนใจว่าเนื้อเรื่องจะเป็นยังไงหรอก

หนัง new wave ก็แบบนี้หมดแหละมั้ง?